ต้นกำเนิดของไวโอลิน
การเขียนถึงเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของไวโอลินอาจจะเขียนได้เป็นร้อยๆ พันๆ หน้ากระดาษเลยทีเดียว มีนักเขียนมากมายที่เขียวเรื่องราวประวัติศาสตร์ของไวโอลิน เรื่องราวที่มีเสน่ห์เเละประวัติอันยาวนานของมัน รวมถึงมุมมองและทัศนะที่แตกต่างกันมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ยืนยันได้อย่างแน่นอน
ในอดีตที่มนุษย์ยังล่าสัตว์เป็นอาหารอยู่นั้น มนุษย์พบว่าการยิงธนูทำให้เกิดเสียงขึ้น นั่นเป็นเพราะการสั่นสะเทือนของสายคันธนู ข้อเท็จจริงที่ว่าการทำให้สายเกิดการสั่นสะเทือนด้วยการใช้คันชักลากผ่านสาย ถูกค้นพบหลังจากนั้นอีกนาน เเต่เกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นไม่ปรากฏชัดเจน แต่เครื่องดนตรีที่ใช้คันชักนั้นอาจจะมีการเล่นกันในอาณาจักรเปอร์เซียโบราณ และที่อื่นๆ มาก่อนแล้ว ในช่วงต้นศตวรรษที่ 8 และในยุโรปในราวๆ ช่วงศตวรรษที่ 9 คำว่า ' Fiddle ' นอกจากจะเป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกเครื่องดนตรีที่ใช้คันชักทุกๆ ชนิดแล้ว คำๆ นี้มักจะหมายความถึงเครื่องดนตรีตั้งแต่ยุคกลาง (Middle Ages) อีกด้วย ซึ่งมีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น
การเขียนถึงเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของไวโอลินอาจจะเขียนได้เป็นร้อยๆ พันๆ หน้ากระดาษเลยทีเดียว มีนักเขียนมากมายที่เขียวเรื่องราวประวัติศาสตร์ของไวโอลิน เรื่องราวที่มีเสน่ห์เเละประวัติอันยาวนานของมัน รวมถึงมุมมองและทัศนะที่แตกต่างกันมากมาย แต่มีเพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ยืนยันได้อย่างแน่นอน
ในอดีตที่มนุษย์ยังล่าสัตว์เป็นอาหารอยู่นั้น มนุษย์พบว่าการยิงธนูทำให้เกิดเสียงขึ้น นั่นเป็นเพราะการสั่นสะเทือนของสายคันธนู ข้อเท็จจริงที่ว่าการทำให้สายเกิดการสั่นสะเทือนด้วยการใช้คันชักลากผ่านสาย ถูกค้นพบหลังจากนั้นอีกนาน เเต่เกิดขึ้นเมื่อไหร่นั้นไม่ปรากฏชัดเจน แต่เครื่องดนตรีที่ใช้คันชักนั้นอาจจะมีการเล่นกันในอาณาจักรเปอร์เซียโบราณ และที่อื่นๆ มาก่อนแล้ว ในช่วงต้นศตวรรษที่ 8 และในยุโรปในราวๆ ช่วงศตวรรษที่ 9 คำว่า ' Fiddle ' นอกจากจะเป็นคำทั่วไปที่ใช้เรียกเครื่องดนตรีที่ใช้คันชักทุกๆ ชนิดแล้ว คำๆ นี้มักจะหมายความถึงเครื่องดนตรีตั้งแต่ยุคกลาง (Middle Ages) อีกด้วย ซึ่งมีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้น
มีการพบเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายพบในหลายๆ
วัฒนธรรมและในช่วงเวลาที่ต่างกัน
ซึ่งย่อมมีส่วนในพัฒนาการของเครื่องดนตรีที่เรียกว่าไวโอลินอยู่บ้างไม่ว่า
โดยทางตรงหรือทางอ้อม เครื่องดนตรีเหล่านี้ เช่น Kithara ของกรีก
ซึ่งอยู่ในราวปีที่ 7 ก่อนคริสตกาล หรือซอเอ้อหู (Erhu) ของจีน
ซึ่งมีอายุอยู่ในราวศตวรรษที่ 8
ในขณะที่วิวัฒนาการที่สำคัญของเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสาย
และเครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่ใช้คันชักไม่มีความเกี่ยวของโดยตรงกับ
ไวโอลิน บทวามนี้จะแสดงถึงบรรพบุรุษที่ใกล้ชิดของไวโอลิน
มีวิวัฒนาการจนมีรูปร่างดังเช่นในปัจจุบันได้อย่างไร
และมีบทบาทสำคัญต่อวัฒนธรรมดนตรีตะวันตกอย่างไร
Vielle
Viola di Braccio (Viola da Braccio, Lira di Braccio, Lira da Braccio)
Viola di Braccio (ซอ 'วิโอล' ของแขน) ถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 15 ที่ประเทศอิตาลี มีขนาดและรูปทรงใกล้เคียงกับ Vielle แต่ลดสายจาก 5 ลงเหลือ 3 เช่นเดียวกับ Rebec และในช่วงแรกนั้น ช่องเสียงรูปตัว C (C-hole) ของ Rebec และ Vielle ถูกเปลี่ยนใหม่เป็นช่องเสียงที่คล้ายคลึงกับช่องเสียงรูปตัว F (F-hole) ของไวโอลินสมัยใหม่
Viola di Braccio (ซอ 'วิโอล' ของแขน) ถือกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 15 ที่ประเทศอิตาลี มีขนาดและรูปทรงใกล้เคียงกับ Vielle แต่ลดสายจาก 5 ลงเหลือ 3 เช่นเดียวกับ Rebec และในช่วงแรกนั้น ช่องเสียงรูปตัว C (C-hole) ของ Rebec และ Vielle ถูกเปลี่ยนใหม่เป็นช่องเสียงที่คล้ายคลึงกับช่องเสียงรูปตัว F (F-hole) ของไวโอลินสมัยใหม่
Viola di Braccio
Violin
จาก หลักฐานต่างๆ ล้วนกล่าวว่า ต้นกำเนิดของไวโอลินอยู่ที่ประเทศอิตาลีในช่วงศตวรรษที่ 16 แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นผู้ที่ประดิษฐ์ไวโอลินขึ้นเป็นคนแรก และเรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันต่อไป แต่การศึกษาและค้นคว้าในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วจะยกความดีให้กับ Andrea Amati แห่งเครโมนา (ราวๆ ปี 1511-1577) ว่าเป็นช่างทำไวโอลินคนแรกที่โลกรู้จัก จากเอกสารที่กล่าวถึงไวโอลิน 2 คันที่เขาสร้างขึ้นในระหว่างปี 1542 และ 1546 แต่เครื่องดนตรีเหล่านี้มีสายแค่ 3 สายเช่นเดียวกับ ไวโอลิน 4 สายตัวแรกก็ทำโดย Andrea Amati ในปี 1555 ส่วนไวโอลินที่เก่าแก่ที่สุดที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบันคือ ไวโอลิน ปี 1560 ทำโดย Andrea Amati เช่นกัน
แต่ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งกลับแย้งความเห็น ที่ว่า Andrea Amati เป็นช่างทำไวโอลินคนแรก แต่ยกความดีนี้ให้กับ Gasparo di Bertolotti da Salo (Gasparo da Salo) (ราวๆ ปี 1540-1609) แห่งเบรสเชีย เนื่องจากอาจารย์ของ Andrea Amati เป็นช่างทำเครื่องดนตรีพิณโบราณ (Lute) เอกสารที่มีอยู่ก็กล่าวถึง Andrea Amati ว่าเป็นช่างทำพิณโบราณ และมีไวโอลินของเขาหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่กล่าวถึงไวโอลินนับตั้งแต่มันเป็นเครื่องดนตรีที่เกิดขึ้นใหม่นั้น คำว่า "ช่างทำไวโอลิน" หรือ "Violin maker" ก็ ยังไม่เป็นที่รู้จัก ยิ่งกว่านั้น มีเอกสารที่กล่าวถึงการขายไวโอลินจำนวน 24 ตัวของ Andrea Amati ให้กับกษัตริย์ Charles IX แห่งฝรั่งเศสในปี 1560 และมีไวโอลินเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ให้พิสูจน์ว่า Andrea Amati เป็นผู้ประดิษฐ์ไวโอลินขึ้น และมีผลงานของเขาเพียง 14 ชิ้นเท่านั้นที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน
จาก หลักฐานต่างๆ ล้วนกล่าวว่า ต้นกำเนิดของไวโอลินอยู่ที่ประเทศอิตาลีในช่วงศตวรรษที่ 16 แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าใครเป็นผู้ที่ประดิษฐ์ไวโอลินขึ้นเป็นคนแรก และเรื่องนี้ยังคงเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันต่อไป แต่การศึกษาและค้นคว้าในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แล้วจะยกความดีให้กับ Andrea Amati แห่งเครโมนา (ราวๆ ปี 1511-1577) ว่าเป็นช่างทำไวโอลินคนแรกที่โลกรู้จัก จากเอกสารที่กล่าวถึงไวโอลิน 2 คันที่เขาสร้างขึ้นในระหว่างปี 1542 และ 1546 แต่เครื่องดนตรีเหล่านี้มีสายแค่ 3 สายเช่นเดียวกับ ไวโอลิน 4 สายตัวแรกก็ทำโดย Andrea Amati ในปี 1555 ส่วนไวโอลินที่เก่าแก่ที่สุดที่ตกทอดมาจนถึงปัจจุบันคือ ไวโอลิน ปี 1560 ทำโดย Andrea Amati เช่นกัน
แต่ข้อมูลอีกส่วนหนึ่งกลับแย้งความเห็น ที่ว่า Andrea Amati เป็นช่างทำไวโอลินคนแรก แต่ยกความดีนี้ให้กับ Gasparo di Bertolotti da Salo (Gasparo da Salo) (ราวๆ ปี 1540-1609) แห่งเบรสเชีย เนื่องจากอาจารย์ของ Andrea Amati เป็นช่างทำเครื่องดนตรีพิณโบราณ (Lute) เอกสารที่มีอยู่ก็กล่าวถึง Andrea Amati ว่าเป็นช่างทำพิณโบราณ และมีไวโอลินของเขาหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม เหตุผลที่กล่าวถึงไวโอลินนับตั้งแต่มันเป็นเครื่องดนตรีที่เกิดขึ้นใหม่นั้น คำว่า "ช่างทำไวโอลิน" หรือ "Violin maker" ก็ ยังไม่เป็นที่รู้จัก ยิ่งกว่านั้น มีเอกสารที่กล่าวถึงการขายไวโอลินจำนวน 24 ตัวของ Andrea Amati ให้กับกษัตริย์ Charles IX แห่งฝรั่งเศสในปี 1560 และมีไวโอลินเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่หลงเหลืออยู่ให้พิสูจน์ว่า Andrea Amati เป็นผู้ประดิษฐ์ไวโอลินขึ้น และมีผลงานของเขาเพียง 14 ชิ้นเท่านั้นที่หลงเหลือมาจนถึงปัจจุบัน
ไวโอลินปี 1560 ที่หลงเหลืออยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น ซึ่ง Andrea Amati ทำเพื่อถวายให้กับกษัตริย์ Charles IX แห่งฝรั่งเศส
Greatest Violinist
Yehudi Menuhin (1916-1999) เป็นทั้งนักไวโอลิน วาทยกร และ "เด็กมหัศจรรย์" ท่านออกแสดงที่ Carnegie Hall กรุงนิวยอร์ค เมื่ออายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น นอกจากนั้น Yehudi Menuhin ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นนักไวโอลินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอีกด้วย
Yehudi Menuhin (1916-1999) เป็นทั้งนักไวโอลิน วาทยกร และ "เด็กมหัศจรรย์" ท่านออกแสดงที่ Carnegie Hall กรุงนิวยอร์ค เมื่ออายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น นอกจากนั้น Yehudi Menuhin ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นนักไวโอลินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลอีกด้วย
Most Expensive Violin on Record
เมื่อวันที่ 1 เมษายน 1998 ไวโอลินฝีมือของ Antonio Stradivari ที่รู้จักกันในชื่อ ' Kreutzer ' ถูกประมูลขายโดยสถาบัน Christie ด้วยราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง £947,500 ปอนด์ ($1,786,368.49 เหรียญ)
ตามมาด้วยการประมูลเมื่อเดือนเมษายนปี 2005 ไวโอลิน ' Lady Tennant ' ปี 1699 ผลงานของ Stradivari ถูกประมูลไปด้วยราคาที่ลบสถิติเดิมคือ 2,032,000 เหรียญ
และล่าสุดคือเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2006 ทางสถาบัน Christie ได้ประมูลขายไวโอลิน ' Hammer ' ปี 1707 ผลงานของ Stradivari อีกเช่นกัน ถูกประมูลขายไปด้วยราคาที่เป็นสถิติใหม่คือ ที่ 3,544,000 เหรียญ
' Hammer ' Stradivari ปี 1707
" Lady Tennant '' Stradivari ปี 1699
' Kreutzer ' ปี 1727 ไวโอลินคู่ใจของ Maxim Vengerov
Mass Production of Violins
ใน ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ความต้องการไวโอลินเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้ทำให้มันกลายเป็นสินค้าที่ ผลิตด้วยระบบอุตสาหกรรม ไวโอลินหลายแสนตัวที่ติดฉลากชื่อของช่างทำไวโอลินที่มีชื่อเสียงชาว อิตาเลียน เช่น Amati, Stradivari, Guarneri ฯลฯ ได้ผลิตขึ้นที่ระเทศฝรั่งเศส เยอรมัน และประเทศอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งเครื่องดนตรีเหล่านี้ไม่ได้ตั้งใจทำขึ้นเพื่อปลอมแปลง แต่ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่หลงใหลในไวโอลินของ ยอดฝีมือเหล่านี้
ปัจจุบันงานเลียนแบบเหล่านี้กลับปรากฏอยู่ตามห้อง ใต้หลังคาบ้านต่างๆ ทั่วโลก ช่วยสร้างความตื่นเต้นเล็กๆ ให้กับเจ้าของด้วยความฝันถึงความร่ำรวย ในขณะที่ความจริงกลับเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาพบไวโอลิน Stradivari เอาป่านนี้ และมูลค่าของไวโอลินที่ถูกค้นพบเหล่านี้คงไม่ทำให้เจ้าของรู้สึกดีใจได้มาก นัก คงมีแต่คำปลอบใจตัวเองเท่านั้น ข่าวการพบไวโอลิน Stradivari คงเป็นได้แค่เรื่องเศร้าและเรื่องน่าขายหน้ามากกว่าเรื่องน่ายินดี ในที่สุดก็ต้องขายออกไปในราคาของเลียนแบบเท่านั้น ทางที่ดีคือนำไวโอลินไปปรึกษาผู้วชาญเพื่อพิสูจน์ความจริงเพื่อให้เกิดความ สบายใจ
ใน ช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ความต้องการไวโอลินเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้ทำให้มันกลายเป็นสินค้าที่ ผลิตด้วยระบบอุตสาหกรรม ไวโอลินหลายแสนตัวที่ติดฉลากชื่อของช่างทำไวโอลินที่มีชื่อเสียงชาว อิตาเลียน เช่น Amati, Stradivari, Guarneri ฯลฯ ได้ผลิตขึ้นที่ระเทศฝรั่งเศส เยอรมัน และประเทศอื่นๆ ในยุโรป ซึ่งเครื่องดนตรีเหล่านี้ไม่ได้ตั้งใจทำขึ้นเพื่อปลอมแปลง แต่ถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่หลงใหลในไวโอลินของ ยอดฝีมือเหล่านี้
ปัจจุบันงานเลียนแบบเหล่านี้กลับปรากฏอยู่ตามห้อง ใต้หลังคาบ้านต่างๆ ทั่วโลก ช่วยสร้างความตื่นเต้นเล็กๆ ให้กับเจ้าของด้วยความฝันถึงความร่ำรวย ในขณะที่ความจริงกลับเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมาพบไวโอลิน Stradivari เอาป่านนี้ และมูลค่าของไวโอลินที่ถูกค้นพบเหล่านี้คงไม่ทำให้เจ้าของรู้สึกดีใจได้มาก นัก คงมีแต่คำปลอบใจตัวเองเท่านั้น ข่าวการพบไวโอลิน Stradivari คงเป็นได้แค่เรื่องเศร้าและเรื่องน่าขายหน้ามากกว่าเรื่องน่ายินดี ในที่สุดก็ต้องขายออกไปในราคาของเลียนแบบเท่านั้น ทางที่ดีคือนำไวโอลินไปปรึกษาผู้วชาญเพื่อพิสูจน์ความจริงเพื่อให้เกิดความ สบายใจ
เครื่องดนตรี Ergonomic
ไวโอลิน ไม่ใช่เครื่องดนตรีที่ถือได้ง่ายที่สุด ส่วนวิโอล่านั้นยิ่งยากกว่า ผลก็คือทำให้นกไวโอลินและนักวิโอล่ามีปัญหาเรื่องคอ แขนและนิ้ว เพื่อป้องกันอาการดังกล่าวจึงมีการออกแบบเครื่องดนตรีที่มีรูปทรงพิเศษออกมา หลายแบบ
ไวโอลิน ไม่ใช่เครื่องดนตรีที่ถือได้ง่ายที่สุด ส่วนวิโอล่านั้นยิ่งยากกว่า ผลก็คือทำให้นกไวโอลินและนักวิโอล่ามีปัญหาเรื่องคอ แขนและนิ้ว เพื่อป้องกันอาการดังกล่าวจึงมีการออกแบบเครื่องดนตรีที่มีรูปทรงพิเศษออกมา หลายแบบ
" Pellegrina Pomposa: Ergonomic Viola
อ่านจบแล้ว เป็นยังไงบ้าง บางคนอาจจะมองว่าน่าเบื่อก็ได้นะ เหอๆๆ
ทั้ง
นี้ทั้งนั้น เราก็ไม่ได้หมายความว่า ข้อมูลที่เราไปหามาเป็นความจริงทั้งหมด
แต่อ้างอิงประวัติศาสตร์ ที่นี่ บอกเราหน่อยได้มั้ยว่า
เครื่องดนตรีที่เพื่อนๆ ชอบคืออะไร เฉพาะในวงออร์เครสต้าร์นะคะ ^ ^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น